การคำนวณคืนทุนจากการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์สำหรับองค์กร
การคำนวณคืนทุนจากการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์สำหรับองค์กร วิเคราะห์ต้นทุน เบี้ยไฟที่ประหยัดได้ และระยะเวลาคืนทุน เพื่อวางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในภาคธุรกิจไม่ใช่เพียงแค่การ “ช่วยโลก” หรือแสดงภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้จริง หากวางแผนและคำนวณอย่างถูกต้อง การติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์อาจกลายเป็นตัวช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยบทความนี้จะพาคุณไปวิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับต้นทุนค่าใช้จ่าย ผลประหยัด และการคำนวณระยะเวลาคืนทุน เพื่อการตัดสินใจที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
วิเคราะห์ต้นทุนในการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์
การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์มีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ อยู่ 3 ส่วน ได้แก่
-
ต้นทุนอุปกรณ์
ได้แก่ แผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ โครงสร้างรองรับ และระบบสายไฟ โดยทั่วไปมีราคาประมาณ 30,000 – 50,000 บาทต่อกิโลวัตต์ (kW) ขึ้นอยู่กับคุณภาพของอุปกรณ์และความสามารถในการผลิตไฟฟ้า -
ต้นทุนติดตั้งและงานระบบ
รวมค่าแรง วิศวกรรม ติดตั้งโครงสร้าง และระบบเชื่อมต่อไฟฟ้า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10–20% ของมูลค่าอุปกรณ์ -
ค่าบำรุงรักษาในระยะยาว
แม้ว่าโซลาร์เซลล์จะมีอายุการใช้งานยาวถึง 25 ปี แต่ควรเผื่องบไว้สำหรับการตรวจสอบและซ่อมบำรุงปีละประมาณ 1–2% ของต้นทุนรวม
ยกตัวอย่าง หากองค์กรต้องการติดตั้งระบบขนาด 100 kW อาจมีต้นทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 3.5–4 ล้านบาท
วิเคราะห์ผลประหยัดค่าไฟฟ้า
สิ่งที่องค์กรจะได้จากการลงทุนในระบบโซลาร์เซลล์คือ “ค่าไฟที่ประหยัดได้” ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้
- ปริมาณแสงแดดเฉลี่ยของพื้นที่ (ประเทศไทยเฉลี่ยประมาณ 4.5–5.5 ชั่วโมงต่อวัน)
- ขนาดของระบบโซลาร์เซลล์ (เช่น 100 kW สามารถผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ยวันละ 400–500 หน่วย)
- ค่าไฟฟ้าขององค์กร (เช่น 4.50 บาทต่อหน่วย)
คำนวณผลประหยัดต่อปี
ระบบ 100 kW ผลิตไฟเฉลี่ย 450 หน่วย/วัน = 164,250 หน่วย/ปี
ประหยัดค่าไฟ = 164,250 x 4.50 = 738,000 บาทต่อปี
คำนวณระยะเวลาคืนทุน (Payback Period)
การคืนทุนเป็นหัวใจของการตัดสินใจลงทุน โดยใช้สูตรดังนี้
ระยะเวลาคืนทุน = ต้นทุนการลงทุน / ค่าไฟที่ประหยัดได้ต่อปี
ยกตัวอย่างจากระบบขนาด 100 kW
ต้นทุนรวมประมาณ 3.8 ล้านบาท
ค่าไฟที่ประหยัดได้ปีละ 738,000 บาท
ระยะเวลาคืนทุน = 3,800,000 / 738,000 = ประมาณ 5.15 ปี
หลังจากนั้น องค์กรสามารถใช้ไฟฟ้าได้ฟรีอีกเกือบ 20 ปี (หากระบบมีอายุ 25 ปี) ซึ่งหมายถึง “ผลตอบแทนสุทธิ” หรือ Net Profit จากการลงทุนที่สูงมาก
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาคืนทุน
-
ราคาค่าไฟฟ้าที่ใช้จริง – หากองค์กรใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีค่า Ft สูง เช่น เวลาทำงานในกลางวัน โซลาร์เซลล์จะช่วยลดต้นทุนได้มากกว่า
-
การเลือกใช้ระบบที่เหมาะสม – เช่น ระบบ On-Grid หรือ Hybrid ซึ่งจะมีต้นทุนต่างกัน
-
ประสิทธิภาพของแผงและอินเวอร์เตอร์ – ของดีมีราคาสูง แต่ช่วยคืนทุนเร็วขึ้น
-
สิทธิประโยชน์ด้านภาษี – หากองค์กรใช้สิทธิหักภาษีเงินลงทุน หรือสนับสนุนจากภาครัฐ จะช่วยลดต้นทุนได้มาก
วางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
การตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ควรเริ่มต้นจากการประเมินการใช้ไฟขององค์กรในแต่ละเดือนอย่างละเอียด แล้วเลือกขนาดระบบที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งนี้ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งสามารถออกแบบระบบให้เหมาะกับสภาพอาคารและความต้องการของธุรกิจ รวมถึงมีบริการดูแลหลังการขายที่ดี
โซลาร์เซลล์คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่วัดผลได้
ระบบโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนพลังงาน แต่ยังช่วยให้องค์กรสร้างความยั่งยืน ทั้งในแง่สิ่งแวดล้อมและการเงิน การคำนวณคืนทุนที่ชัดเจน ช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมั่นใจ และหากวางแผนดี การติดตั้งเพียงครั้งเดียวอาจเปลี่ยนต้นทุนระยะยาวให้กลายเป็นผลกำไรได้ในอีกหลายปีข้างหน้า
หากคุณกำลังมองหาโรงงานโซล่าเซลล์ หรือบริษัทผลิตโซล่าเซลล์แบบครบวงจรสำหรับบ้าน และโซล่าเซลล์อุตสาหกรรม A SOLAR พร้อมให้บริการติดตั้งโซล่าเซลล์ ราคาคุ้มค่า บริการสำรวจพื้นที่ และคำนวณแผนการลงทุนให้คุณอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะติดตั้งโซล่าเซลล์บ้าน หรือติดตั้งโซล่าเซลล์ขนาดใหญ่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม เข้าถึงง่าย และสะดวกกว่าด้วยศูนย์บริการกว่า 10 สาขา และรับประกันอายุการใช้งานของแผงโซล่าเซลล์ 30 ปี และอินเวอร์เตอร์ 10 ปี เสียแล้วเรายินดีเปลี่ยนใหม่ให้ทันที ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ การันตีด้วยยอดติดตั้ง Solar Rooftop (หลังคาโซล่าเซลล์) สูงสุดในประเทศไทย กว่า 4,000 ไซต์ทั่วประเทศ
สนใจบริการติดตั้งโซล่าเซลล์บ้าน ติดตั้งโซล่าเซลล์โรงงาน สอบถามราคาแผงโซล่าเซลล์สำหรับบ้าน
หรือพบกับ A Solar ได้แล้ววันนี้ที่ HomePro หรือ SCG Home สาขาใกล้บ้านท่านทั่วประเทศไทย
โทร : 02-1088599
E-mail : info@asolar.co.th